เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค อายอดีตสตาร์แมนฯ ซิตี้ กับการกลับมาของลิเวอร์พูล
เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค แสดงสัญญาณที่เข้าใจได้ของการเกิดสนิม ระหว่างการกลับมาของลิเวอร์พูลกับแฮร์ธา เบอร์ลิน เมื่อคืนวันพฤหัสบดี
นักเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์รายนี้ช่วยหนุนความสำเร็จของลิเวอร์พูลในช่วงที่ผ่านมา เกือบจะมีสถานะเป็นโทเท็ม และการขาดงานของเขารู้สึกดีขึ้นเมื่อฤดูกาลที่แล้ว หลังจากที่เขาได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าระหว่างเกมเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี้ในเดือนตุลาคม
Van Dijk เลือกที่จะพลาดการแข่งขัน European Championships ในช่วงฤดูร้อนนี้เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับแคมเปญใหม่ในพรีเมียร์ลีก และนักเตะวัย 30 ปีก็เอาชนะอุปสรรคสำคัญในการฟื้นตัวของเขาด้วยการปรากฏตัวครั้งแรกในรอบเก้าเดือนที่ Tivoli Stadion เมื่อคืนนี้
นักเตะวัย 30 ปีรายนี้ได้รับการแนะนำให้รู้จักกับการต่อสู้ในช่วงกลางของช่วงที่ 2 ร่วมกับคู่หูป้องกันของเขาและโจ โกเมซเพื่อนร่วมทีมที่ไม่อยู่ในระยะยาว แต่ก็ไม่สามารถช่วยให้ลิเวอร์พูลรักษาตำแหน่งเริ่มต้นที่ไม่แพ้ใครในช่วงปรีซีซั่นได้
อันที่จริง Van Dijk อยู่ในทะเลสำหรับเป้าหมายของเกมของ Hertha ซึ่งยิงโดยอดีตกองหน้าแมนเชสเตอร์ซิตี้ Stevan Jovetic
นักเตะทีมชาติมอนเตเนโกรหยิบบอลขึ้นมาในครึ่งหลังของลิเวอร์พูล เก็บ Van Dijk เข้าทางก่อนที่จะตัดเข้าไปข้างในและทิ้งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟซึ่งยู่ยี่กับพื้นเพื่อความตายและเอาชนะอลิสสัน เบ็คเกอร์ด้วยการจบสกอร์อย่างเรียบร้อย
แม้จะมีข้อผิดพลาดนั้น Van Dijk รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กลับมาลงเล่นอีกครั้งและได้แสดงความเคารพต่อทุกคนที่รับผิดชอบในการช่วยให้เขากลับมาทำงานตามปกติ
เขาพูดว่า: ‘285 วันที่แล้ว ผมเริ่มเดินทางกลับไปสู่การเล่น เป็นการยากที่จะบอกว่าฉันรู้สึกอย่างไร แต่สิ่งสำคัญสำหรับฉันคือการบอกว่าฉันรู้สึกมีความสุขที่ได้รับการสนับสนุนจากผู้คนที่น่าทึ่งมากมาย
‘ศัลยแพทย์ นักกายภาพ โค้ช และทีมงานที่อยู่เคียงข้างฉันตั้งแต่วันแรก
‘เพื่อนร่วมทีมของฉันที่ให้พลังงานกับฉันและตั้งหน้าตั้งตา แฟนๆ สำหรับความรัก การสนับสนุน และกำลังใจ
‘และที่สำคัญที่สุด ครอบครัวของฉัน เพราะถ้าไม่มีพวกเขา ฉันก็จะไม่เป็นอะไร’ ขอขอบคุณ. ตอนนี้งานยังไม่หยุด มันเพิ่งจะเริ่มต้น เราจะไปต่อ!’
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆจาก : Metro
เครดิต : ufa877
Sambi Lokonga เป็นผู้นำโดยธรรมชาติ
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *